01คุณลักษณะพัฒนาการในวัยเด็ก/วัยรุ่น
- โดยทั่วไปแล้ว วัยเด็กหมายเด็กที่มีอายุระหว่าง 6 ถึง 12 ขวบ เป็นช่วงที่เด็กเริ่มเข้าโรงเรียนประถมและมาใช้เวลาส่วนใหญ่กับคนอื่นที่ไม่ใช่สมาชิกในครอบครัวของเด็กนอกบ้าน ซึ่งในช่วงเวลานี้ เด็กจะรู้จักบทบาทของตนเอง รู้จักห่วงใยผู้อื่น เรียนรู้เกี่ยวกับการทำงานร่วมกันในสังคมและความรู้สึกของการเป็นชุมชนผ่านการกระทำหรือการเล่นแบบกลุ่ม ชีวิตในโรงเรียนของเด็กและความสัมพันธ์กับเพื่อนๆ มีผลกระทบอย่างมากต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการทางบุคลิกภาพของเด็ก
- วัยรุ่นหมายถึงเด็กที่มีอายุระหว่าง 12-13 ปีถึง 19-20 ปี หลังจากที่ลักษณะทางเพศทุติยภูมิเริ่มปรากฏขึ้นมา โดยในช่วงต้นของช่วงเวลานี้ เด็กๆ มักจะเติบโตอย่างรวดเร็วและมีความสามารถในการสืบพันธุ์ พวกเขามีแนวโน้มแสดงความเห็นที่อิงกับตนเองและอุดมคติของตน รู้สึกต่อต้านค่านิยมและความเชื่อของผู้ใหญ่ และเข้าร่วมกับการทดลองที่หลากหลาย ซึ่งเกี่ยวข้องกับบทบาทในอนาคตของพวกเขา ดังนั้นพวกเขาจึงมีโอกาสตกอยู่ในสถานการณ์ที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้โดยง่าย ดังนั้นสิ่งสำคัญก็คือการให้คำแนะนำเพื่อการป้องกันสำหรับพวกเด็กๆ
คุณลักษณะการเจริญเติบโตและพัฒนาการในวัยเด็ก/วัยรุ่น
아동∙청소년기 성장과 발달 특성 : 주요특성, 설명 및 건강증진을 위한 고려 점을 포함한 표입니다. | คุณลักษณะหลัก | คำอธิบาย | ปัจจัยที่ควรพิจารณา ในการส่งเสริมสุขภาพ |
| พัฒนาการทางกล้ามเนื้อและโครงกระดูก การเจริญเติบโตทางร่างกายอย่างรวดเร็ว | - การพัฒนาของโครงกระดูกจะเกิดขึ้นเมื่ออยู่ในช่วงวัยเด็ก ดังนั้นสิ่งสำคัญก็คือการทำให้เด็กๆ มีท่าทางที่เหมาะสมเพื่อป้องกันปัญหาโครงกระดูกเสียรูป
- เพื่อนๆ อาจชักชวนให้เด็กสูบบุหรี่หรือเสพยา
| - พยายามรักษาท่าทางของร่างกายให้เหมาะสม
- บอกเด็กไม่ให้สูบบุหรี่ ดื่มสุรา และเสพยา
|
| ฟันแท้ | - ฟันน้ำนม 20 ซี่จะถูกแทนที่ด้วยฟันแท้เมื่ออายุระหว่าง 12-13 ปี
- การรักษาสุขภาพช่องปากในวัยเด็กและวัยรุ่นมีความสำคัญอย่างมาก เพื่อช่วยให้พวกเขามีชีวิตที่ดีเมื่อเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ เนื่องจากคนรุ่นต่อไปคาดว่าจะมีอายุขัยที่ยาวนานขึ้น
| - การดูแลฟัน (การแปรงฟัน การใช้ไหมขัดฟัน การป้องกันฟันผุ การป้องกันการสบฟันผิดปกติ)
|
| การแสดงลักษณะทางเพศทุติยภูมิ วุฒิภาวะทางเพศ | - เด็กหนุ่มสาวมีความรู้สึกไม่สบายใจและอับอายต่อร่องรอยการเกิดคุณลักษณะทางเพศทุติยภูมิ ดังนั้นคุณจำเป็นต้องให้ความรู้เรื่องเพศศึกษาเกี่ยวกับความแตกต่างระหว่างอวัยวะเพศชาย/หญิง และวิธีดูแลอวัยวะเพศก่อนที่จะเกิดร่องรอยคุณลักษณะทางเพศทุติยภูมิ
- พวกเด็กๆ มีความสามารถในการสืบพันธุ์ ดังนั้นจำเป็นต้องช่วยพวกเด็กๆ ในการดูแลตนเองด้านสุขภาพผ่านการให้การศึกษาและการแนะแนว
| - ความแตกต่างระหว่างอวัยวะเพศชาย/หญิง
- คำแนะนำเกี่ยวกับกิจกรรมทางเพศที่ดีต่อสุขภาพ
- การดูแลตนเอง (การตรวจเต้านม/อัณฑะด้วยตนเอง การฉีดวัคซีนป้องกันการติดเชื้อไวรัส Human Papiloma Virus (HPV))
|
| การพัฒนาความรู้สึกที่มีต่อชุมชนและเพื่อนๆ | - ในช่วงเวลานี้ พวกเด็กๆ จะเข้าใจขีดจำกัดของตนเองและพัฒนาความรู้สึกที่มีต่อชุมชนผ่านการมีปฏิสัมพันธ์ร่วมกับเพื่อนๆ
- พวกเด็กๆ รู้สึกว่าการได้รับการรับรู้/การยอมรับจากเพื่อนๆ เป็นสิ่งที่สำคัญ ดังนั้นพวกเขาจึงมีแนวโน้มที่จะเข้าร่วมทำสิ่งต่างๆ กับเพื่อนๆ รวมถึงการกระทำที่ต่อต้านสังคมหรือสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นการกระทำที่กล้าหาญ
| |
02การส่งเสริมสุขภาพในวัยเด็ก/วัยรุ่น
(1)การรักษาท่าทางที่ถูกต้อง
- เด็กวัยเรียนยังอยู่ในช่วงของการพัฒนาโครงกระดูก หากอยู่ในท่าที่ไม่ถูกต้องเป็นเวลานานอาจทำให้โครงกระดูกเสียรูปได้ สิ่งสำคัญคือต้องให้พวกเขาพัฒนานิสัยในการรักษาท่าทางที่เหมาะสมเพื่อช่วยให้พวกเขาเติบโตอย่างแข็งแรง
- เนื่องจากเด็กๆ ใช้เวลาส่วนใหญ่นั่งอยู่ที่โต๊ะเรียน ดังนั้นสิ่งสำคัญที่จะช่วยพวกเขาได้ก็คือใช้โต๊ะ/เก้าอี้ที่พอดีกับส่วนสูงของพวกเขา และช่วยสร้างนิสัยในการนั่งด้วยท่าทางที่เหมาะสม
- < การนั่งที่โต๊ะทำงานอย่างถูกวิธีเพื่อสุขภาพที่ดี >
- 1คาง) ก้มคางลงเล็กน้อย
- 2เข่า) ขาควรทำมุมที่เหมาะสมกับหัวเข่า โดยให้ต้นขาขนานกับพื้น
- 3ฝ่าเท้า) ทำให้พื้นรองเท้าสัมผัสกับพื้น
- 4เอว) ดันเอวให้ชิดกับด้านหลังของที่นั่งและดูให้แน่ใจว่าไม่ทำตัวงอ
- 5สะโพก) นั่งบนขอบเก้าอี้
กระดูกสันหลังคด
- < ภาพเปรียบเทียบระหว่างผู้ที่มีกระดูกสันหลังปกติ (ซ้าย) และผู้ที่มีกระดูกสันหลังคด (ขวา) >
- กระดูกสันหลังคดหมายถึงภาวะที่กระดูกสันหลังหรือกระดูกส่วนหลังมีลักษณะความโค้งไปด้านข้างเหมือนตัวอักษร "C" หรือ "S"
- เมื่อไม่นานมานี้ มีจำนวนคนหนุ่มสาวที่ทุกข์ทรมานจากสภาพนี้เพิ่มขึ้นเนื่องจากการใช้สมาร์ทโฟนบ่อยหรือใช้ท่านั่งที่ไม่ถูกต้อง
- หากตรวจพบแต่เนิ่นๆ กระดูกสันหลังคดสามารถแก้ไข/รักษาให้หายขาดได้ภายในระยะเวลาอันสั้น เราขอแนะนำให้คุณตรวจดูกระดูกสันหลังของบุตรหลานเป็นระยะๆ ว่ามีอาการนี้หรือไม่ เพื่อที่จะได้ไปพบแพทย์และทำการเยียวยาแต่เนิ่นๆ
อาการและข้อบ่งชี้ซึ่งแสดงว่ากระดูกสันหลังคด
- ① ไหล่ไม่เท่ากัน, ② โครงของไหล่ยื่นออกมา, ③ กระดูกสันหลังโค้ง, ④ สะโพกไม่เท่ากัน
- ไหล่ไม่เท่ากัน กระดูกสันหลังโค้ง และสะโพกไม่เท่ากัน
- ซี่โครงบิด ซี่โครงและสะบักยื่นออกมา
- รอบเอวของกางเกงหรือกระโปรงไม่เรียบสม่ำเสมอกัน พื้นรองเท้าบริเวณเท้าด้านนอกสึกเร็วกว่าปกติ
- ระยะห่างระหว่างแขนและลำตัวด้านหนึ่งกว้างกว่าอีกด้านหนึ่ง
(2)การดูแลฟัน
การดูแลฟันในวัยเด็ก/วัยรุ่นในขณะที่ฟันน้ำนมถูกแทนที่ด้วยฟันแท้เป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากคุณภาพชีวิตของคุณในวัยที่เป็นผู้ใหญ่ขึ้นอยู่กับสถานะของฟันของคุณในตอนเด็ก
วิธีการแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันอย่างถูกวิธี
- การแปรงฟันเป็นสิ่งแรกที่คุณต้องทำเพื่อป้องกันฟันผุ เราขอแนะนำให้แปรงฟันอย่างน้อยวันละ 3 ครั้ง ภายในเวลา 3 นาทีหลังจากรับประทานอาหาร และแปรงฟันอย่างน้อย 3 นาที การแปรงฟันก่อนเข้านอนเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง โปรดเปลี่ยนแปรงสีฟันใหม่ทุกๆ สอง/สามเดือน
- คุณต้องแปรงฟันทุกซี่อย่างพิถีพิถัน และควรแปรงลิ้นของคุณด้วยในขณะที่แปรงฟัน
- โปรดใช้ไหมขัดฟันหลังจากแปรงฟันเสร็จแล้ว คุณไม่ควรคาดหวังให้เด็กๆ ใช้ไหมขัดฟันอย่างถูกต้องตามลำพังได้จนกว่าพวกเขาจะอายุแปดหรือเก้าขวบ โปรดช่วยให้พวกเขาใช้ไหมขัดฟันทุกครั้งหลังแปรงฟัน
การแปรงฟันอย่างถูกวิธี
- 1.ถือแปรงสีฟันของคุณเอาไว้แบบนี้
- 2.ใช้แรงกดเล็กน้อยเพื่อทำให้ยาสีฟันแทรกตัวเข้าไปในแปรงสีฟัน
- 3.การแปรงพื้นผิวด้านนอกของฟันหน้า: วางแปรงสีฟันตรงบริเวณพื้นที่ระหว่างฟันกับเหงือก แล้วเลื่อนลงในลักษณะเป็นวงกลมเบาๆ
- 4.การแปรงฟันล่างด้านหน้า: วางแปรงสีฟันตรงบริเวณพื้นที่ระหว่างฟันกับเหงือกแล้วเลื่อนขึ้นด้านบน
- 5.การแปรงผิวด้านในของฟันหน้า: วางแปรงสีฟันในแนวตั้งแล้วเคลื่อนจากด้านในสู่ด้านนอก
- 6.การแปรงพื้นผิวด้านนอกของฟันกราม: วางแปรงสีฟันตรงบริเวณพื้นที่ระหว่างฟันกับเหงือก แล้วเคลื่อนไปทางด้านบนในลักษณะเป็นวงกลมเบาๆ
- 7.การแปรงส่วนบนของฟันกราม: แปรงด้านหลังและด้านหน้าสิบครั้ง
- 8.การแปรงพื้นผิวด้านในของฟันกราม: วางแปรงสีฟันตรงบริเวณพื้นที่ระหว่างฟันกับเหงือก และเคลื่อนไปทางด้านบนในลักษณะเป็นวงกลมเบาๆ
- 9.การแปรงลิ้น: วางฟันของคุณบริเวณด้านในสุดของลิ้นและขยับแปรงตามที่แสดงในภาพ
วิธีป้องกันฟันผุ
ฟันผุหรือที่เรียกว่าโรคฟันผุควรได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีและได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกันการสึกกร่อนของฟัน
- แปรงฟันอย่างถูกวิธี
- ไปพบทันตแพทย์เมื่อมีปัญหาเรื่องฟัน
- หลีกเลี่ยงการกินอาหารหวานและน้ำอัดลม กินผัก ผลิตภัณฑ์จากนม และผลไม้ให้เพียงพอ
- การใช้ยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์ช่วยป้องกันฟันผุได้
- การไปพบทันตแพทย์ตามเวลาที่กำหนดจะช่วยทำให้สามารถตรวจพบฟันผุได้ตั้งแต่เนิ่นๆ และเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษา
(3)การดูแลสุขภาพทางเพศ
- เมื่อปรากฏลักษณะทางเพศทุติยภูมิในตนเอง เด็กวัยรุ่นจึงหันมาสนใจเรื่องทางเพศมากขึ้น ในช่วงวัยรุ่นตอนต้น พวกเขามักมีจินตนาการทางเพศและมองหาโอกาสที่จะออกเดทหรือมีเพศสัมพันธ์ จากนั้นกลายความสัมพันธ์ทางเพศกับเพศตรงข้ามตามค่านิยม ความเชื่อ หรือประเพณีของพวกเขา
- บ่อยครั้งที่เหล่าวัยรุ่นมักมีกิจกรรมทางเพศโดยประมาทโดยอิงกับความเชื่อแบบผิดๆ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของลักษณะการพัฒนาทางจิตวิทยาในช่วงเวลาของพวกเขา หรือเป็นผลมาจากแรงกดดันจากเพื่อนฝูง หรือในความพยายามที่จะแสดง "วุฒิภาวะ" ของตนเอง
- วัยรุ่นที่มีกิจกรรมทางเพศมักมีแนวโน้มที่จะเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ที่คุกคามสุขภาพทางเพศของตนเอง อาทิเช่น การตั้งครรภ์ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ฯลฯ เนื่องจากอวัยวะเพศยังอ่อนแอ
- เราต้องหาทางทำให้วัยรุ่นเลิกมีกิจกรรมทางเพศจนกว่าพวกเขาจะพร้อมเต็มที่ทั้งทางร่างกาย สติปัญญา และอารมณ์สำหรับความสัมพันธ์ทางเพศที่เป็นผู้ใหญ่ และสามารถคาดการณ์ผลจากการกระทำของตนเองได้
อวัยวะเพศชายและหญิง
- โครงสร้างของอวัยวะเพศหญิงมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อจากภายนอกมากกว่าอวัยวะเพศชาย ผู้หญิงไม่สามารถเห็นอวัยวะเพศส่วนใหญ่ของตนเองได้โดยตรง เนื่องจากอยู่ภายในร่างกาย หากมีปัญหาในอวัยวะเพศหญิง อาการจะไม่ปรากฏทันที ซึ่งในหลายกรณี เมื่อแสดงอาการให้เห็น โรคมักอยู่ในระยะลุกลามแล้ว ดังนั้น ผู้หญิงจำเป็นต้องรักษาสุขภาพทางเพศของตนด้วยการดูแลตนเองในเชิงบวกและการตรวจสุขภาพเป็นระยะๆ
ความแตกต่างระหว่างอวัยวะเพศชายและหญิง
-
- ① ท่อนำไข่, ② ฐานมดลูก, ③ เส้นเอ็น, ④ เยื่อบุโพรงมดลูก, ⑤ กล้ามเนื้อของมดลูก, ⑥ ปากมดลูก, ⑦ รังไข่, ⑧ มดลูก, ⑨ ช่องคลอด
อวัยวะเพศหญิง
- ผู้หญิงไม่สามารถเห็นมดลูกของตนเองได้โดยตรง เนื่องจากอยู่ภายในร่างกาย
- ท่อนำไข่เปิดออกอยู่ภายในบริเวณช่องท้อง ท่อปัสสาวะของผู้หญิงสั้นกว่าของผู้ชาย ท่อปัสสาวะของผู้หญิงแยกออกจากช่องคลอด โดยที่ช่องคลอดเป็นท่อกล้ามเนื้อที่มาจากปากอวัยวะเพสภายนอกไปยังปากมดลูก ดังนั้นจึงเสี่ยงที่จะติดเชื้อจุลินทรีย์จากภายนอกได้โดยง่าย
-
- ① ถุงน้ำเชื้อ, ② ท่อน้ำอสุจิ, ③ ท่อปัสสาวะ, ④ ท่อไต, ⑤ กระเพาะปัสสาวะ, ⑥ ต่อมลูกหมาก, ⑦ หลอดนำอสุจิ, ⑧ ลูกอัณฑะ, ⑨ ลึงค์
อวัยวะเพศชาย
- อวัยวะเพศชายประกอบด้วยท่อปิดที่มาจากอัณฑะไปยังท่อปัสสาวะ
- ท่อปัสสาวะของผู้ชายยาวกว่าของเพศหญิง ท่อปัสสาวะของผู้ชายยังทำหน้าที่เป็นทางผ่านสำหรับน้ำอสุจิและเสี่ยงที่จะติดเชื้อจุลินทรีย์จากภายนอกได้ยากกว่าผู้หญิง
การดูแลสุขภาพสำหรับอวัยวะเพศหญิง
- สวมชุดชั้นในที่เป็นผ้าฝ้ายซึ่งระบายอากาศได้ดี
- อย่าสวมชุดชั้นในที่ที่คับจนเกินไป
- อย่ากลั้นปัสสาวะ
- เช็ดอวัยวะเพศจากบริเวณด้านหน้าไปยังด้านหลังเมื่อใช้ห้องน้ำเพื่อป้องกันไม่ให้ช่องคลอดของคุณติดเชื้อ
- ตอนที่ล้างอวัยวะเพศ ใช้สบู่ที่ค่าเป็นกลางเพื่อรักษาความเป็นกรด กรุณาล้างสาม/สี่ครั้งต่อสัปดาห์โดยใช้หัวฝักบัวจากบริเวณด้านหน้าไปยังด้านหลัง
- ตอนที่เปลี่ยนผ้าอนามัยหรือผ้าอนามัยแบบสอด ล้างมือก่อนทำการเปลี่ยนผ้าอนามัย
คำแนะนำในการเลือกกิจกรรมทางเพศ
- ในช่วงที่อยู่ในวัยรุ่น คุณมักจะประสบปัญหาในการตาเดาอนาคตและปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน เราหวังว่าคำแนะนำนี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกกิจกรรมทางเพศได้อย่างถูกต้อง
คำแนะนำสำหรับวัยรุ่นในการเลือกกิจกรรมทางเพศ
การดูแลตนเองเพื่อส่งเสริมสุขภาพทางเพศ
- 1การตรวจอวัยวะเพศด้วยตนเอง
- ผู้หญิงที่มีความสัมพันธ์ทางเพศหรือมีกิจกรรมทางเพศบ่อยครั้งควรตรวจอวัยวะเพศด้วยตนเองทุกเดือน
- คุณสามารถยืนยันความผิดปกติของอวัยวะเพศได้โดยง่ายผ่านการตรวจด้วยสายตาหรือการคลำด้วยมือ การตรวจอวัยวะเพศด้วยตนเองเป็นประจำจะช่วยให้คุณพบปัญหาที่อวัยวะเพศตั้งแต่เนิ่นๆ และช่วยป้องกันการแพร่กระจายของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้เป็นอย่างดี
วิธีการตรวจอวัยวะเพศด้วยตนเอง
- สิ่งของที่ต้องเตรียม: กระจกที่มีด้ามจับ
- วิธีการตรวจ: หาสถานที่ที่สว่างและเงียบสงบ มองดูอวัยวะเพศผ่านกระจกเงา และปฏิบัติตามขั้นตอนต่อไปนี้:
- ใช้มือข้างหนึ่งถือกระจกเอาไว้ แล้วมองอวัยวะเพศของตนเอง ใช้นิ้วมือของมืออีกข้างหนึ่งแหวกช่องตลอดและสังเกตสิ่งที่คุณเห็นอย่างละเอียด
- ตรวจสอบหัวหน่าว คริสตอริส ท่อปัสสาวะ แคมใหญ่ แคมเล็ก และบริเวณฝีเย็บเพื่อดูว่ามีอะไรที่ผิดปกติหรือไม่
- ใช้ปลายนิ้วสัมผัสอวัยวะเพศเพื่อดูว่ามีแผลพุพอง ก้อนเนื้อ หรือหูดหรือไม่ และตรวจดูว่าสีเปลี่ยนไปหรือไม่
- 2การตรวจลูกอัณฑะด้วยตนเอง
- ใช้วิธีนี้เพื่อค้นหาและป้องกันมะเร็งอัณฑะตั้งแต่เนิ่นๆ ใช้วิธีนี้เดือนละครั้งโดยการคลำด้วยมืออย่างละเอียดเป็นเวลาประมาณ 3 นาที
- มะเร็งอัณฑะสามารถเกิดขึ้นได้ในชายทุกกลุ่มอายุ แต่เมื่อมานานนี้มีรายงานว่าผู้ชายอายุระหว่าง 15-35 ปีมะเร็งเป็นอัณฑะเพิ่มขึ้น หากคุณพบมะเร็งอัณฑะในระยะเริ่มต้น คุณมีโอกาสที่จะรักษาให้หายขาดได้
วิธีการตรวจลูกอัณฑะด้วยตนเอง
- สิ่งของที่คุณต้องเตรียม: กระจก
- ปฏิบัติตามขั้นตอนต่อไปนี้
- เมื่ออัณฑะและถุงอัณฑะผ่อนคลายเพียงพอหลังจากอาบน้ำ โปรดเริ่มขั้นตอนโดยใช้นิ้วของคุณ
- ยืนอยู่หน้ากระจกและตรวจดูว่าผิวหนังของถุงอัณฑะมีร่องรอยของอาการบวมน้ำหรือไม่
- วางนิ้วของคุณ (นิ้วหัวแม่มือ นิ้วชี้ และนิ้วกลาง) ไปที่ด้านบน/ล่างของลูกอัณฑะ หากคุณไม่รู้สึกเจ็บที่ลูกอัณฑะ นั่นถือเป็นเรื่องปกติ ขนาดของลูกอัณฑะแตกต่างกันเล็กน้อยถือเป็นเรื่องปกติ
- วางนิ้วของคุณบนท่อน้ำอสุจิที่อยู่ด้านหลังลูกอัณฑะ หากเป็นปกติจะรู้สึกเหมือนเป็นก้อนเนื้อนุ่ม หากพบว่ามีลักษณะที่ผิดปกติ โปรดไปพบแพทย์
- 3การตรวจเต้านมด้วยตนเอง
- มะเร็งเต้านมเป็นเนื้องอกร้ายที่ก่อตัวในทรวงอก มะเร็งเต้านมเป็นโรคมะเร็งที่พบเป็นอันดับ 1 ในผู้หญิงเกาหลี เมื่อไม่นานมานี้ มีจำนวนผู้ป่วยมะเร็งเต้านมในเกาหลีเพิ่มขึ้นอย่างมาก เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงรูปแบบชีวิตและพฤติกรรมการบริโภคอาหาร
- ดังนั้นความจำเป็นในการตรวจเต้านมด้วยตนเองจึงมีความสำคัญมากขึ้นกว่าในอดีต เนื่องจากผู้หญิงเป็นมะเร็งเต้านมอยู่ในช่วงอายุที่น้อยลงกว่าเดิม
- ในกรณีที่มะเร็งเจริญเติบโตเฉพาะในเต้านม การกำจัดและรักษามะเร็งเต้านมจึงสามารถทำได้โดยง่าย และอัตราการรอดชีวิตของผู้ป่วยจึงอยู่ในระดับสูง แต่ถ้าการเจริญเติบโตของมะเร็งแพร่กระจายไปยังเนื้อเยื่อข้างเคียง มะเร็งก็อาจคุกคามต่อชีวิตของผู้ป่วยได้
- เราสามารถตรวจพบมะเร็งเต้านมได้ตั้งแต่เนิ่นๆ โดยการตรวจด้วยตนเอง
- การตรวจเต้านมด้วยตนเอง: ตรวจเต้านมด้วยตนเอง 5-7 วันหลังจากสิ้นสุดรอบเดือน ซึ่งเป็นช่วงที่เต้านมมีความนุ่มที่สุด หากคุณกำลังตั้งครรภ์ ให้นมบุตร หรืออยู่ในวัยหมดประจำเดือน โปรดกำหนดวันในแต่ละเดือนแล้วทำการตรวจเต้านม
- A.วิธีปรับปรุงสุขภาพเต้านมของคุณ
- ตรวจเต้านมด้วยตนเองทุกเดือนเพื่อตรวจสุขภาพของเต้านม
- หากคุณรู้สึกว่ามีก้อนเนื้ออยู่ในเต้านม รูปร่างมีการเปลี่ยนแปลง หรือสีผิวเปลี่ยนไป โปรดไปพบแพทย์
- ป้องกันมะเร็งเต้านมโดยหลีกเลี่ยงสิ่งที่เรียกว่าปัจจัยเสี่ยง
- B.ปัจจัยเสี่ยงการเกิดมะเร็งเต้านม
-
ปัจจัยเสี่ยงในการเกิดมะเร็งเต้านมที่เปลี่ยนแปลงได้
- ประวัติการกินยาคุมกำเนิดล่าสุด
- การดื่มสุรา
- การสูบบุหรี่
- โรคอ้วน
- ได้รับรังสีรุนแรงบริเวณหน้าอก
-
ปัจจัยเสี่ยงในการเกิดมะเร็งเต้านมที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลง
- มีประวัติการเป็นมะเร็งเต้านม ฯลฯ
- ประวัติการมีประจำเดือน
- พันธุกรรม
- ประวัติการตั้งครรภ์/การให้นมบุตร
- มีฮอร์โมนเอสโตรเจน/เทสโทสเตอโรนอยู่ในระดับสูง
- C.การตรวจเต้านมด้วยตนเอง/การคลำด้วยมือ
- สิ่งของที่ต้องเตรียม: กระจกตั้งพื้น เตียงนอน หมอน เสื้อคลุม
- ทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี้ตามลำดับ: การตรวจสอบด้วยสายตา → การคลำด้วยมือ → การบีบหัวนม
- ตรวจดูด้วยสายตาแล้วคลำด้วยมือ วางนิ้วบนเต้านมแล้วกดไล่ไปเหมือนวาดวงกลมเพื่อดูว่ามีก้อนเนื้อผิดปกติหรือไม่
- ตอนที่ทำการคลำเต้านมด้วยตนเอง คุณควรนอนราบลง เพราะจะทำให้เนื้อเยื่อของเต้านมกระจายทั่วตัวอย่างสม่ำเสมอ
- ตรวจสอบว่าคุณรู้สึกมีก้อนเนื้อผิดปกติในเต้านมหรือไม่ คุณอาจเลือกคลำด้วยมือโดยใช้นิ้วที่เปียกหรือมีสบู่ ขณะยืนอาบน้ำ
- สุดท้าย โปรดบีบหัวนมของคุณเพื่อดูว่ามีของเหลวไหลออกมาหรือไม่
วิธีการตรวจเต้านมด้วยตนเอง/การคลำด้วยมือ
การตรวจเต้านมด้วยตนเองในท่ายืน
- 1ยกแขนขึ้นแล้วเริ่มคลำ โดยเริ่มจากบริเวณด้านล่างขวาของรักแร้จนถึงปลายล่างของเต้านม
- 2ใช้มือประคองเต้านมส่วนล่างและใช้มืออีกข้างคลำ
- 3ทำแบบเดียวกันกับเต้านมอีกข้างหนึ่ง
การตรวจเต้านมด้วยตนเองในท่านอน
- 1นอนราบ ยกแขนขึ้น วางหมอนหรือแผ่นรองใต้ไหล่ จากนั้นเริ่มคลำจากบริเวณใต้รักแร้จนถึงปลายล่างของเต้านม
- 2ทำแบบเดียวกันกับเต้านมอีกข้างหนึ่ง
ตรวจดูว่ามีของเหลวไหลออกมาจากหัวนมของคุณหรือไม่โดยการบีบหัวนม
- 1ใช้นิ้วโป้งและนิ้วชี้บีบหัวนมเพื่อดูว่ามีของเหลวไหลออกมาหรือไม่
- 2ทำแบบเดียวกันกับเต้านมอีกข้างหนึ่ง
- 4การฉีดวัคซีน HPV เพื่อป้องกันมะเร็งปากมดลูก
- มะเร็งปากมดลูกหมายถึงเนื้องอกร้ายที่ก่อตัวขึ้นบริเวณปากมดลูก ซึ่งเป็นช่องทางเข้าสู่มดลูก
- เราพบมะเร็งปากมดลูกในผู้หญิงเกาหลีมากกว่าสามพันคนในแต่ละปี และผู้หญิงมากกว่า 900 คนเสียชีวิตในแต่ละปี
- สาเหตุหลักของมะเร็งปากมดลูกคือการติดเชื้อ Human Papiloma Virus (HPV) ที่แพร่กระจายผ่านการติดต่อทางเพศสัมพันธ์ HPV ชนิดที่มีความเสี่ยงสูงพบได้ในผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูกร้อยละ 99 มะเร็งปากมดลูกสามารถป้องกันได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยการฉีดวัคซีน HPV
- ผู้ใหญ่สามารถรักษาภูมิต้านทานเอาไว้ได้ด้วยการฉีดวัคซีน 3 ครั้ง แต่เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีมีภูมิต้านทานสูง ดังนั้นการฉีดวัคซีนเพียงสองครั้งจึงเพียงพอแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การฉีดวัคซีนสองครั้งก่อนมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกจะทำให้เกิดผลดีที่สุดในการป้องกันมะเร็งปากมดลูก
- ในเกาหลีและในประเทศอื่นๆ ส่วนใหญ่ รัฐจัดสรรการวัคซีนป้องกันฟรีสำหรับเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 12 ปี
- คุณสามารถดูรายละเอียดของการฉีดวัคซีน HPV ที่รัฐจัดสรรให้ได้ในเว็บไซต์ของสำนักงานควบคุมและป้องกันโรคแห่งเกาหลี (Korea Disease Control and Prevention Agency) (KDCA) (https://www.kdca.go.kr/gallery.es?mid=a20503010000&bid=0002&list_no=145640&act=view)
สามารถใช้งานได้ตามเงื่อนไข “KOGL (ลิขสิทธิ์เปิดเผยซอร์ซโค้ดของเกาหลี) ประเภท 4: ระบุแหล่งซอร์ซโค้ด+ห้ามใช้ในเชิงพาณิชย์+ห้ามทำการเปลี่ยนแปลง”