Guidebook for Living in Korea

เรื่องราวการใช้ชีวิตในวัยเด็กที่ศูนย์ดูแลเด็ก

  • Home
  • Life plus
  • เรื่องราวการใช้ชีวิตในวัยเด็กที่ศูนย์ดูแลเด็ก

เรื่องราวการใช้ชีวิตในวัยเด็กที่ศูนย์ดูแลเด็ก

01ศูนย์ดูแลเด็กคืออะไร

ศูนย์ดูแลเด็กคือ:

สถานประกอบการด้านการศึกษาและการดูแลเด็กแห่งนี้ดำเนินการภายใต้พระราชบัญญัติการดูแลเด็ก เพื่อให้บริการดูแลเด็กเล็กและเด็กปฐมวัย โดยได้รับอนุญาตจากนายกเทศมนตรี นายอำเภอ หรือหัวหน้าเขต

ผู้ที่มีสิทธิ์ใช้บริการ

ศูนย์ดูแลเด็กให้การดูแลเด็กก่อนวัยเรียนที่มีอายุต่ำกว่า 7 ปี อย่างไรก็ตาม หากมีความจำเป็น (เช่น การดูแลแบบบูรณาการสำหรับเด็กพิการ หรือการศึกษาเสริมหลังเลิกเรียน) สามารถขยายการดูแลได้ถึงอายุ 12 ปี

เวลาทำการ

ศูนย์ดูแลเด็กเปิดให้บริการ 12 ชั่วโมงในวันธรรมดา (07.30 น. – 19.30 น.) และ 8 ชั่วโมงในวันเสาร์ (07.30 น. – 15.30 น.) อย่างไรก็ตาม หากคำนึงถึงเวลาทำงานของผู้ปกครองหลักและหลังจากได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองล่วงหน้าแล้ว เวลาในทำกาของศูนย์ดูแลเด็กแต่ละแห่งสามารถปรับเปลี่ยนได้ (การดูแลเด็กช่วงกลางวันที่ขยายเวลาไปจนถึงช่วงกลางคืนและดูแลเด็กในวันหยุด)

เวลาทำการของศูนย์ดูแลเด็ก

เวลาทำการของศูนย์ดูแลเด็กแบ่งออกเป็นการดูแลขั้นพื้นฐาน (9.00 น. - 16.00 น.) สำหรับทารกและเด็กก่อนวัยเรียนทุกคน และเวลาทำการเพิ่มเติม (16.00 น. – 19.30 น.) สำหรับทารกและเด็กก่อนวัยเรียนที่ต้องการการดูแลเพิ่มเติม โดยจะมีการมอบหมายครูเพิ่มเติมสำหรับช่วงเวลาการดูแลที่นานกว่าปกติ

  • 1การให้คำปรึกษาการใช้บริการในช่วงเวลาทำการเพิ่มเติม (ผู้อำนวยการ - ผู้ปกครอง) (จำนวนชั่วโมงเพิ่มเติมสำหรับการดูแลเด็ก)
  • 2การยื่นขอใช้บริการในช่วงเวลาทำการเพิ่มเติม (ใช้ได้กับเด็กอายุ 0 – 2 ขวบเท่านั้น)
    • การยื่นขอใช้บริการ: สำนักงานสวัสดิการสังคม (สำนักงานระดับเมือง/ตำบล ศูนย์บริการชุมชน) หรือผ่านเว็บไซต์ออนไลน์ Bokjiro (bokjiro.go.kr)
    • การแยกแยะคุณสมบัติและการแจ้งเตือน: เมือง/เขต/แขวง
    • ทารกที่มีอายุตั้งแต่ 0 - 2 ขวบต้องมีคุณสมบัติเหมาะสมจึงจะสามารถเข้ารับการดูแลติดต่อกันเป็นเวลาหลายชั่วโมงได้
      • มาตรฐานผู้ที่มีคุณสมบัติ : มีงานทำแล้ว กำลังหางานหรือเตรียมตัวที่จะทำงาน ครอบครัวที่มีลูกหลายคน ครอบครัวพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยว ลูกที่เลี้ยงโดยปู่ย่าตายาย ครอบครัวหลากวัฒนธรรม ครอบครัวที่มีรายได้น้อย ครอบครัวผู้พิการ ครอบครัวที่ให้การดูแลผู้สูงอายุระยะยาว มีผู้ที่ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล (ดูแลผู้ป่วย) ตั้งครรภ์ แท้งบุตร การเรียน การรับราชการทหาร และเหตุผลอื่นๆ
      • เด็กที่มีคุณสมบัติรองรับการดูแลตลอดวันสามารถยื่นขอการดูแลในชั่วโมงเพิ่มเติมได้โดยไม่ต้องทำการตรวจสอบคุณสมบัติเพิ่มเติม
      • เด็กที่มีคุณสมบัติรองรับการดูแลแบบพิเศษจำเป็นต้องยื่นขอทบทวนคุณสมบัติใหม่ หากต้องการใช้บริการในชั่วโมงเพิ่มเติม
    • ทารกที่มีอายุระหว่าง 3 – 5 ขวบสามารถใช้บริการในชั่วโมงเพิ่มเติมได้หลังจากปรึกษากับศูนย์ดูแลเด็กโดยไม่จำเป็นต้องตรวนสอบคุณสมบัติเพิ่มเติม
  • 3การยื่นเรื่องใช้บริการในชั่วโมงเพิ่มเติม (เด็กทุกคนที่มีอายุระหว่าง 0 - 5 ขวบ)
    • ส่งใบสมัครการขอใช้บริการในชั่วโมงเพิ่มเติมไปยังศูนย์ดูแลเด็กที่เกี่ยวข้อง
  • 4ยืนยันการขอใช้บริการในชั่วโมงเพิ่มเติม

02เลือกสถานรับเลี้ยงเด็กแบบไหนจึงจะเหมาะสม

นโยบายการดำเนินงานและปรัชญาการดูแลเด็ก

ศูนย์ดูแลเด็กแต่ละแห่งมีนโยบายการดำเนินงานขั้นหรือปรัชญาการดูแลเด็กขั้นพื้นฐานเป็นของตนเอง ปัจจัยต่างๆ อาทิเช่น นโยบายการดำเนินงาน ปรัชญาการดูแลเด็ก และทัศนคติของผู้อำนวยการศูนย์ดูแลเด็ก ซึ่งเป็นผู้ดูแลศูนย์ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งมีอิทธิพลอย่างมากต่อศูนย์ ดังนั้นโปรดตรวจสอบปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ก่อนผ่านทางโฮมเพจของศูนย์ หรือผ่าน การปรึกษาหารือกับผู้อำนวยการ

หลักสูตรการดูแลเด็กตามมาตรฐาน

หลักสูตรการดูแลเด็กตามมาตรฐานจะยึดตามเป้าหมายและเนื้อหาของการดูแลเด็กที่เป็นสากลและใช้ร่วมกันทั่วประเทศ สำหรับเด็กเล็กและเด็กปฐมวัยอายุตั้งแต่แรกเกิดถึงห้าขวบในศูนย์ดูแลเด็ก หลักสูตรนี้ประกอบด้วยหลักสูตรการดูแลสำหรับเด็กอายุ 0–1 ปี, 2 ปี และ 3–5 ปี (หลักสูตรนูรี)

  • หลักสูตรนูรีสำหรับเด็กอายุ 3–5 ปีคืออะไร เป็นหลักสูตรร่วมสำหรับการดูแลและการศึกษาที่มุ่งรับประกันโอกาสทางการศึกษาที่มีคุณภาพสูงและเท่าเทียมกันตั้งแต่จุดเริ่มต้นของชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเด็กที่เข้าเรียนในศูนย์ดูแลเด็กหรือโรงเรียนอนุบาลก็ตาม
อัตราส่วนของครูเทียบกับทารกและเด็กก่อนวัยเรียน

อัตราส่วนของครูเทียบกับทารกและเด็กก่อนวัยเรียนคือเงื่อนไขพื้นฐานด้านสภาพแวดล้อมที่จำเป็นสำหรับครูในการระบุลักษณะส่วนบุคคลของเด็กและเพื่อจัดสรรการดูแลที่เหมาะสม อัตราส่วนของครูเทียบกับทารกและเด็กก่อนวัยเรียนตามกฎหมายที่รัฐบาลกำหนดไว้มีดังนี้

อัตราส่วนของครูเทียบกับทารกและเด็กก่อนวัยเรียน
어린이집 교사 대 영유아 비율 : 연령 및 배치기준을 포함한 표입니다.
อายุ 0 1 2 3 4 ขวบขึ้นไป
มาตรฐานการมอบความรับผิดชอบ 1:3 1:5 1:7 1:15 1:20
ความปลอดภัยและความสะอาดของสภาพแวดล้อมทั้งภายในและภายนอกอาคาร

ทารกและเด็กก่อนวัยเรียนมักทำการการสำรวจสิ่งรอบตัวอย่างต่อเนื่องเนื่องจากมีความอยากรู้อยากเห็นอยู่ในระดับสูง พวกเด็กๆ จึงมักจะประสบอุบัติเหตุและมีความต้านทานต่อโรคต่ำ ดังนั้นคุณควรตรวจสอบความปลอดภัยและความสะอาดของสถานที่ทั้งภายในและภายนอกศูนย์ดูแลเด็กอย่างละเอียด

ตารางเวลาการให้บริการที่เหมาะสมกับพัฒนาการของทารกและเด็กก่อนวัยเรียน

ตารางเวลาการดูแลประจำวันจะต้องดำเนินการให้เหมาะสมกับรูปแบบการใช้ชีวิตประจำวันตามปกติของเด็กๆ ดังนั้น ตารางเวลาควรประกอบด้วยเวลาเล่นที่เพียงพอ การพักผ่อนที่เหมาะสม การงีบหลับ และกิจกรรมในร่มตามพัฒนาการของทารกและเด็กก่อนวัยเรียน

อาหารแต่ละมื้อที่สมดุล

เด็กที่อยู่ในช่วงวัยทารกและเด็กก่อนวัยเรียนมักมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ดังนั้นควรตรวจสอบว่าศูนย์ดูแลเด็กจัดอาหารและของว่างที่สมดุลในด้านโภชนาการที่จำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตของเด็กแล้วหรือยัง รวมทั้งควรตรวจสอบผู้จัดหาวัตถุดิบในการประกอบอาหารและประเทศต้นทางของวัตถุดิบด้วย

ระยะทางจากบ้าน

แม้ว่าศูนย์ดูแลเด็กจะให้บริการที่ดีเยี่ยมเพียงใดก็ตาม แต่ถ้าตั้งอยู่ไกลจากบ้านมากเกินไป การเดินทางไปศูนย์ดูแลเด็กอาจยากเกินไปสำหรับเด็ก ดังนั้นการเลือกศูนย์ดูแลเด็กใกล้บ้านจึงเป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน

03สิ่งต้องเตรียมก่อนที่จะฝากเด็กเข้าศูนย์รับเลี้ยงเด็ก

ใบสมัครเข้าศูนย์รับเลี้ยงเด็ก

ผู้ปกครองที่ต้องการใช้บริการของศูนย์ดูแลเด็กสามารถสมัครขอนับบริการทางออนไลน์ได้โดยไม่มีข้อจำกัดเรื่องเวลาและสถานที่

วิธีการสมัครเข้าศูนย์ดูแลเด็ก
  • เวลาลงทะเบียนการรับสมัคร: สามารถลงทะเบียนได้ตลอดทั้งปี
  • จำนวนศูนย์ดูแลเด็กที่สามารถลงทะเบียนในรายชื่อรอเข้าเรียนได้: เด็กหนึ่งคนสามารถอยู่ในรายชื่อรอเข้าเรียนได้สูงสุด 3 แห่ง ไม่ว่าจะลงทะเบียนเรียนในศูนย์ดูแลเด็กแล้วหรือไม่ก็ตาม (รวมถึงเด็กที่ลงทะเบียนในศูนย์ดูแลเด็กที่มีกำหนดจะปิด)
  • ช่วงอายุที่สามารถลงทะเบียนในรายชื่อรอเข้าเรียนได้: ตั้งแต่อายุ 0 ถึง 5 ปี (อย่างไรก็ตาม เด็กที่มีความพิการสามารถลงทะเบียนได้ถึงอายุ 12 ปี)
  • ศูนย์ดูแลเด็กที่ใช้สิทธิ์นี้ได้: สามารถลงทะเบียนรอเข้าเรียนได้ในทุกศูนย์ดูแลเด็กที่มีสิทธิ์รับสมัครตามลำดับความสำคัญ (ยกเว้นศูนย์ดูแลเด็กในสถานประกอบการและศูนย์ดูแลเด็กแบบร่วมมือกัน)
  • วิธีการสมัคร
    • (ติดต่อศูนย์ดูแลเด็กโดยตรง) บิดามารดาหรือผู้ปกครองสามารถเยี่ยมชมศูนย์ดูแลเด็กและสมัครเพื่อขอใช้บริการได้
    • (การสมัครทางออนไลน์) บิดามารดาหรือผู้ปกครองสามารถสมัครผ่านหน้าหลักของประตูท่าของ Child Care ซึ่งเป็นเว็บไซต์ทั่วไปด้านการตั้งครรภ์และการดูแลเด็ก (www.childcare.go.kr)
  • กรณีบุตรของคนต่างชาติ คุณไม่สามารถสมัครผ่านเว็บไซต์ทั่วไปได้ แต่คุณจำเป็นต้องสมัครกับศูนย์ดูแลเด็กที่คุณต้องการใช้บริการโดยตรงหรือสมัครผ่านหน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่นที่ศูนย์ดูแลเด็กตั้งอยู่ก็ได้
ขั้นตอนการสมัครเพื่อใช้บริการของศูนย์ดูแลเด็ก
  • 1การทะเบียนเด็ก
    หลังจากทำการสมัครเป็นสมาชิกของเว็บไซต์ Child Care แล้ว ให้ลงทะเบียนบุตรของคุณเพื่อเข้ารับบริการ
  • 2การค้นหาศูนย์ดูแลเด็ก
    หลังจากค้นหาศูนย์ดูแลเด็กต่างๆ แล้ว ให้เลือกศูนย์ดูแลเด็กหนึ่งแห่งที่คุณต้องการ
  • 3การยื่นจองสิทธิ์
    การสมัครเข้ารับบริการของศูนย์ดูแลเด็ก
  • 4การยืนยันว่าเด็กมีสิทธิ์เข้ารับบริการแล้ว
    ศูนย์ดูแลเด็กยืนยันว่าจะรับเด็กหลังจากตรวจสอบลำดับสิทธิ์การจองที่รอรับอยู่แล้ว โดยเรียงตามลำดับความสำคัญ
  • 5ยื่นเอกสารที่เกี่ยวข้องตามระดับความสำคัญในการรับ
    ศูนย์ดูแลเด็กรับและตรวจสอบเอกสารการสมัครจากผู้ปกครอง ยกเว้นผู้ที่มีคุณสมบัติเข้าใช้บริการโดยอัตโนมัติ
  • 6ขั้นตอนการรับเด็ก
    ศูนย์รับเลี้ยงเด็กดำเนินการรับเด็กตามลำดับสิทธิ์การจองที่รอรับอยู่
การสมัครบัตรความสุขประชาชน

รัฐบาลให้เงินอุดหนุนศูนย์ดูแลเด็กในรูปของบัตรกำนัล ดังนั้น หากคุณตัดสินใจส่งบุตรหลานของคุณไปที่ศูนย์ดูแลเด็ก คุณต้องสมัครบัตรความสุขประชาชนก่อน

  • บัตรความสุขประชาชนจะช่วยให้คุณสามารถนำความช่วยเหลือต่างๆ ที่รัฐบาลจัดสรรให้มาใช้ อาทิเช่น ค่าธรรมเนียมศูนย์ดูแลเด็ก ค่าธรรมเนียมการศึกษาเด็กปฐมวัย ระบบประกันสุขภาพแห่งชาติสำหรับการตั้งครรภ์และการคลอดบุตร ตลอดจนถึงบัตรกำนัลอิเล็กทรอนิกส์สำหรับบริการทางสังคมอีกด้วย
วิธีการยื่นขอบัตร
발급방법용 : 온라인, 오프라인을 기준으로 보조금신청, 보조금 신청서, 카드발급 및 카드발급처에 대한 내용을 나타낸 표입니다.
ออนไลน์ ออฟไลน์
การสมัครขอความช่วยเหลือ เมื่อคุณสมัครขอความช่วยเหลือจากรัฐบาล คุณสามารถยื่นขออนุมัติค่าธรรมเนียมศูนย์ดูแลเด็กและค่าธรรมเนียมการศึกษาระดับอนุบาลได้ การสมัครขอความช่วยเหลือ เมื่อคุณสมัครขอความช่วยเหลือจากรัฐบาล คุณสามารถยื่นขออนุมัติค่าธรรมเนียมศูนย์ดูแลเด็กและค่าธรรมเนียมการศึกษาระดับอนุบาลได้
แบบฟอร์มการสมัครขอความช่วยเหลือ หน้าหลักของเว็บไซต์ Bokjiro(www.bokjiro.go.kr) แบบฟอร์มการสมัครขอความช่วยเหลือ ศูนย์ชุมชนระดับเมือง/ตำบล/แขวง
การออกบัตร เลือกบริษัทบัตรเครดิตที่คุณชื่นชอบจากบริษัทบัตรเครดิตห้าแห่งและรับบัตรเครดิต (ไม่เสียค่าธรรมเนียมรายปี) การออกบัตร เลือกบริษัทบัตรเครดิตที่คุณชื่นชอบจากบริษัทบัตรเครดิตห้าแห่งและรับบัตรเครดิต (ไม่เสียค่าธรรมเนียมรายปี)
ผู้ออกบัตร หน้าหลักของเว็บไซต์ Bokjiro(www.bokjiro.go.kr) ผู้ออกบัตร ศูนย์ชุมชนระดับเมือง/ตำบล/แขวง สาขาบริษัทเครดิตรายใหญ่ทั่วประเทศ
Child Care เว็บไซต์สำหรับการตั้งครรภ์และการคลอดบุตร (www.childcare.go.kr)
หน้าหลักของบริษัทบัตรเครดิตห้าแห่ง (KB Kookmin Card, Shinhan Card, Lotte Card, Samsung Card, BC Card)
การปฐมนิเทศเด็กแรกเข้าศูนย์ดูแลเด็กและเอกสารการรับเข้า

การปฐมนิเทศสำหรับเด็กแรกเข้าคือการให้ข้อมูลเกี่ยวกับสภาพปัจจุบัน นโยบายการดำเนินงาน โปรแกรมการดูแลเด็ก และนโยบายการดำเนินงานแต่ละชั้นเรียนของศูนย์ดูแลเด็ก นี่จึงเป็นโอกาสดีสำหรับผู้ปกครองที่จะได้รับข้อมูลอย่างละเอียด ดังนั้นเราจึงขอแนะนำให้ผู้ปกครองต้องเข้าร่วมการปฐมนิเทศดังกล่าว คุณจะได้รับคำแนะนำเกี่ยวกับการกรอกเอกสารการสมัครรับเข้าใช้บริการศูนย์ดูแลเด็กในระหว่างการปฐมนิเทศ รัฐบาลกำหนดให้ต้องยื่นเอกสารส่วนใหญ่ตามเวลาที่กำหนดโดยที่ผู้ปกครองเตรียมเอกสารเอาไว้ล่วงหน้า

การเตรียมข้าวของที่จำเป็นสำหรับการใช้บริการในศูนย์ดูแลเด็ก

การเตรียมข้าวของที่จำเป็นสำหรับการใช้บริการในศูนย์ดูแลเด็กอาจแตกต่างกันไปตามศูนย์ดูแลเด็กแต่ละแห่ง แต่โดยทั่วไปแล้ว ข้าวของที่จำเป็นสำหรับการใช้บริการในศูนย์ดูแลเด็ก มักประกอบด้วยผ้านวมสำหรับงีบหลับ หมอน แปรงสีฟันและยาสีฟัน กระดาษทิชชู่เปียก และอื่นๆ ส่วนในกรณีของใช้ส่วนตัวสำหรับทารกมักประกอบด้วย นมผง ขวดนม และผ้ากอซ

การเตรียมจิตใจ

ผู้ปกครองที่ส่งลูกไปที่ศูนย์ดูแลเด็กเป็นครั้งแรกอาจรู้สึกกังวลและเสียใจที่ต้องจากกับลูก มากกว่าที่จะคาดหวังว่าเด็กจะได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ อย่างไรก็ตาม หากผู้ปกครองมีจิตใจในลักษณะนี้อาจส่งผลเสียต่อการปรับตัวของเด็กได้ ดังนั้นผู้ปกครอง จึงจำเป็นต้องไปติดต่อศูนย์ดูแลเด็กพร้อมกับลูกเพื่อพูดคุยกับครูเสียก่อน หรือดำเนินชีวิตไปตามปกติตามตารางเวลาของศูนย์รับเลี้ยงเด็กเพื่อเป็นการเตรียมจิตใจของตนเอง ส่วนในกรณีของครอบครัวที่ทำงานสองอาชีพ พวกเขาอาจต้องเข้าร่วมกับช่วงการปรับตัวโดยปรับเปลี่ยนวันหยุดของตนเอง หลังจากตรวจสอบช่วงเวลาการปรับตัวของศูนย์ดูแลเด็กแล้ว หรือขอความช่วยเหลือจากผู้ที่เป็นปู่ย่าตายาย

04วิธีการช่วยเหลือเด็กที่จะไปศูนย์ดูแลเด็กเป็นครั้งแรก

โปรแกรมการปรับตัวของศูนย์ดูแลเด็กคืออะไร

โปรแกรมการปรับตัวของศูนย์ดูแลเด็กคือการนำเสนอประสบการณ์ไปใช้ชีวิตในศูนย์ดูแลเด็กแบบค่อยเป็นค่อยไปตามตารางเวลาที่กำหนดสำหรับเด็กที่เข้ารับบริการในศูนย์ดูแลเด็ก เพื่อที่เด็กจะได้เอาชนะความวิตกกังวลเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคยและสามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ได้ โปรแกรมการปรับตัวจะค่อยๆ ขยายเวลาออกไปเรื่อยๆ โดยเริ่มตั้งแต่ 'การเข้าร่วมกิจกรรมตามตารางเวลาในตอนเช้า' ร่วมกับผู้ปกครองไปจนถึง 'เวลาอาหารกลางวัน', 'เวลางีบ' และ ‘การเข้าร่วมกับกิจกรรมตามตารางในช่วงบ่าย' จากนั้นจะมีการแยกจากผู้ปกครองโดยเริ่มต้นตั้งแต่ 5 - 10 นาที และจะเวลาขยายเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ กระบวนการนี้จะดำเนินการอย่างเป็นระบบเป็นเวลาอย่างน้อยหนึ่งสัปดาห์ภายใต้การพิจารณาของผู้ปกครองและครู และจะดำเนินการอย่างยืดหยุ่นตามสภาพแวดล้อมของศูนย์ดูแลเด็กและตามลักษณะส่วนบุคคลของทารกและเด็กก่อนวัยเรียน รวมทั้งสภาพแวดล้อมของแต่ละครอบครัวด้วย

พฤติกรรมเด็กที่ปรากฏขึ้นมาในช่วงที่มีการปรับตัว

ประสบการณ์การถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพังในศูนย์ดูแลเด็กที่เด็กไม่คุ้นเคยหลังจากถูกแยกจากพ่อแม่จัดว่าเป็นเรื่องที่สร้างความลำบากใจสำหรับเด็กอย่างมาก และเด็กอาจแสดงความวิตกกังวลของตนเองออกมาในรูปแบบต่างๆ ดังนั้น ผู้ปกครองควรยอมรับความวิตกกังวลของเด็กและช่วยเหลือพวกเขาด้วยวิธีการที่เหมาะสม

เด็กๆ อาจแสดงพฤติกรรมดังต่อไปนี้ในช่วงระยะเวลาที่มีการปรับตัว
  • เด็กอาจทำตัวเฉยเมยอย่างต่อเนื่องเมื่อก้าวเข้าไปในศูนย์ดูแลเด็กและพูดจาในแง่ลบ
  • เด็กอาจบอกว่ารู้สึกไม่สบายระหว่างไปที่ศูนย์ดูแลเด็ก แม้ว่าจะไม่มีอาการใดๆ ทางร่างกายก็ตาม
  • เด็กอาจไม่ยอมรับครูหรือไม่โต้ตอบกับครู
  • เด็กอาจปฏิเสธไม่รับประทานอาหารหรือของว่างที่ศูนย์ดูแลเด็กจัดให้
  • เด็กอาจมองหาพ่อแม่เพราะร้องไห้หนักเกินไปในช่วงเวลางีบหลับ
  • เด็กอาจแสดงความรักต่อพ่อแม่มากเกินไปหรือบ่นบ่อยๆ
  • เด็กอาจมีการถ่ายอุจจาระโดยไม่ได้ตั้งใจในทันที หรือเริ่มมองหาขวดนมหรือดูดนิ้ว
พ่อแม่ควรช่วยเด็กที่มีอาการแบบนี้ในช่วงที่มีการปรับตัว
  • ผู้ปกครองควรเชื่อว่าบุตรของตนจะปรับตัวเข้ากับศูนย์ดูแลเด็กได้เป็นอย่างดี
  • ผู้ปกครองควรพูดออกมาว่าศูนย์ดูแลเด็กเป็นสถานที่ที่น่าเชื่อถือ และครูก็เป็นคนดีต่อหน้าเด็กๆ
  • ผู้ปกครองควรถูกใส่ใจอาการทางประสาทของบุตร ซึ่งอาจปรากฏขึ้นในช่วงระยะเวลาปรับตัว และปลอบโยนบุตรที่ต้องไปศูนย์ดูแลเด็ก
  • ผู้ปกครองควรตรงต่อเวลาในการไปส่งและรับบุตรจากศูนย์ดูแลเด็กให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
  • ผู้ปกครองไม่ควรแอบทิ้งบุตรเอาไว้โดยไม่บอกกล่าวหรือโกหกบุตร (“แม่ต้องเข้าห้องน้ำ”) ตอนที่ต้องแยกจากบุตร
  • ผู้ปกครองควรเข้าใจว่าเวลาในการปรับตัวของเด็กแต่ละคนแตกต่างกัน และควรรออย่างใจเย็น
  • ผู้ปกครองควรเล่าปฏิกิริยาของลูกและกระบวนการเปลี่ยนแปลงที่สังเกตเห็นในระหว่างช่วงเวลาการปรับตัวให้ครูทราบผ่านสมุดบันทึกการสนทนาและสมุดรายงานความประพฤติ
  • เนื่องจากมีเด็กหลายคนอาศัยอยู่ร่วมกันในศูนย์ดูแลเด็ก ดังนั้นเด็กจึงมีโอกาสติดเชื้อไวรัสได้ง่าย ดังนั้นผู้ปกครองจึงต้องเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ร่างกายของบุตร และใส่ใจกับสุขอนามัยส่วนบุคคลของบุตรอยู่เสมอ
  • ผู้ปกครองควรปลูกฝังความคิดเชิงบวกให้กับบุตรโดยการพูดคุยถึงเรื่องราวดีๆ ของศูนย์ดูแลเด็ก แทนที่จะเน้นเรื่องราวในเชิงลบ หากผู้ปกครองจดจ่ออยู่กับเรื่องที่ก่อให้เกิดความเครียดต่อบุตรขณะอยู่ที่ศูนย์ดูแลเด็ก การคิดเชิงลบเกี่ยวกับศูนย์ดูแลเด็กในลักษณะดังกล่าวจะยิ่งเพิ่มพูนขึ้นในจิตใจของบุตรได้

05เด็กๆ ใช้เวลาในศูนย์ดูแลเด็กอย่างไร

  • 1ไปยังศูนย์ดูแลเด็ก
    등원이미지
  • 2รับประทานอาหารว่างช่วงเช้า
    오전 간식 이미지
  • 3กิจกรรมในร่มช่วงเช้า
    오전 실내놀이 이미지
  • 4กิจกรรมกลางแจ้ง
    바깥놀이 이미지
  • 5รับประทานมื้อเที่ยง
    점심 식사 이미지
  • 6แปรงฟันและเข้าห้องน้ำ มื้อเที่ยง
    양치 및 화장실 가기 이미지
  • 7งีบหลับ
    낮잠 이미지
  • 8รับประทานอาหารว่างช่วงบ่าย
    오후 간식 이미지
  • 9กิจกรรมในร่มช่วงบ่าย
    오후 실내놀이 이미지
  • 10กลับบ้าน
    귀가 이미지
สามารถใช้งานได้ตามเงื่อนไข “KOGL (ลิขสิทธิ์เปิดเผยซอร์ซโค้ดของเกาหลี) ประเภท 4: ระบุแหล่งซอร์ซโค้ด+ห้ามใช้ในเชิงพาณิชย์+ห้ามทำการเปลี่ยนแปลง”